6/12/2552

เขมรโคตรเนรคุณ

****สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่
ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล
เคยเป็นเรื่องโต้เถียงเกี่ยงมานาน
ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน
****กะลาครอบมานานโบราณว่า
พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน
คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน
ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป
****อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม
เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้
ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย
เพราะเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด
****เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู
ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด
สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร
แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี
****ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ
เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่
คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี
ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน
****หากไทยจะลำเลิกบ้างอ้างขอบเขต
เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น
ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน
องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา
****เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง
ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า
ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา
สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง
****ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว
จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่าจองหอง
เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง
ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา
****ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์
ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา
ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา
เพราะทรงพระกรุณาประทานไป
****มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ
ถึงลูกหลานกับเนรคุณได้
สมกับคำโบราณท่านว่าไว้
อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย....


ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
18 ตุลาคม 2502

เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง

๏ เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟ เราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย


กวีนิพนธ์ โดย อังคาร กัลยาณพงศ์

6/07/2552

การเขียนโปรแกรมแบบ OOP

ความหมายของ OOP
OOP (ย่อจาก Object Oriented Programming การเขียนโปรแกรมแบบวัตถุวิธี) เป็นรูปแบบ (Paradigm) หรือแนวคิดอย่างหนึ่ง อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อการสร้างซอฟท์แวร์ คำว่า Object ในที่นี้หมายถึงวัตถุ หรือสิ่งของที่จับต้องได้ ไม่ได้หมายถึงวัตถุประสงค์ จุดมุ่งหมาย หรือกรรม (ผู้ถูกกระทำ อย่างประธาน กริยา และกรรม ในรูปประโยค)
มีผู้ตีความว่าแนวคิดนี้คือ “การเขียนโปรแกรมโดยมุ่งที่เป้าหมาย (มิได้เน้นที่กระบวนการ)” ผู้เขียนเห็นว่าการตีความดังกล่าวไม่สู้จะถูกต้อง เพราะการเขียนโปรแกรมตามลัทธินี้มีการสร้าง object ขึ้นจริง แม้จะเป็น object อันจับต้องไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาพซอฟท์แวร์ แต่ก็มีเจตนาจะเลียนแบบ object ที่เป็นรูปธรรมอย่างเต็มที่
เรื่อง OOP เป็นเรื่องของ object ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องรู้คือความหมายของคำว่า object นิยามของ object คือ “หน่วยหนึ่งของโปรแกรมซึ่งมีหน้าที่การทำงานอันเฉพาะเจาะจง และถูกกำหนดปฏิสัมพันธ์กับโปรแกรมหน่วยอื่นๆ ไว้อย่างแน่ชัด” ในภาษา C# เราสร้าง object จากคลาส

คลาสกับ object
คลาสกับ object เป็นสองสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง คลาสคือโค้ดที่เราเขียนขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวของ object การสร้าง object จากคลาสเรียกว่าการทำ instantiation การสร้าง object จากคลาส เทียบได้กับการทำขนมครกสิงคโปร์ เตาขนมจะมีหลุมหลายหลุม แต่ละหลุมมีลวดลายไม่เหมือนกัน ขนมครกที่ได้จากแต่ละหลุมจึงมีรูปร่างต่างๆ กัน คลาสคือหลุมหนึ่งหลุม ขนมครกที่ได้คือ instance ของคลาส หรือ object
เราเรียก object หนึ่ง object ว่าหนึ่ง instance เราสามารถสร้าง object ได้หลายๆ instance จากคลาสเพียงคลาสเดียว จากตัวอย่างขนมครกสิงคโปร์ ในวันหนึ่งๆ แม่ค้าจะทำขนมครกได้เป็นจำนวนมากจากหลุมแต่ละหลุม ส่วนในภาษา C# หากเราสร้างคลาสหนึ่งคลาส ยกตัวอย่างเช่น เป็นคลาสเพื่อนิยาม node หลังจากนั้นเราอาจเขียนโปรแกรมสร้าง binary tree ซึ่งขณะทำงานมันอาจจะสร้าง object จากคลาส node ได้หลายล้าน instance ภายในหนึ่งวินาที

คลาสหนึ่งคลาสใช้สร้าง object ได้จำนวนมาก แม้ object แต่ละตัวจะมีคุณสมบัติและการทำงานเหมือนกันหมด แต่ object แต่ละตัวจะมีสถานะและข้อมูลเป็นของตัวเองโดยไม่ขึ้นกับคลาสหรือ object อื่นๆ
การใช้งานคลาสทำได้สองวิธี วิธีแรกคือการนำไปใช้สร้าง object และใช้งานผ่าน object ดังที่อธิบายไปแล้ว อีกวิธีหนึ่งคือเรียกใช้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง object เรียกว่า static class แม้การใช้งานคลาสวิธีนี้จะไม่มี object ทำให้ดูเหมือนไม่เป็นหลักการ OOP แต่ในบางสถานการณ์ก็ถือว่ามีความเหมาะสมดี

object กับ type
เรื่องของ type เป็นเรื่องสำคัญในวิชา OOP ในหนังสือนี้ท่านจึงจะพบคำว่า type อยู่เสมอ จึงมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องทำความเข้าใจความหมายของคำว่า type ให้ตรงกับความหมายใน OOP และภาษา C# ก่อน
ในภาษาที่ไม่ใช่ภาษา OOP อย่างภาษา C มี type ต่างๆ เตรียมไว้ล่วงหน้า เช่น int (จำนวนเต็ม) float (จำนวนมีทศนิยม) char (ตัวอักษร) เป็นต้น type เหล่านี้คือชนิดของข้อมูล ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราเขียนโค้ดว่า
int foo;
ซึ่งทำหน้าที่นิยามตัวแปรชนิดจำนวนเต็ม compiler (ตัวแปลภาษา) จะรู้ทันทีว่าควรทำเช่นใดกับตัวแปรชนิดนี้ เพราะ int เป็น type ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว (ภายในตัว compiler ภาษา C) เรียกว่า build-in type (หรือ primitive type หรือ abstract data type ก็ว่า)
ภาษา C รับรู้ type อยู่จำนวนหนึ่ง หากเราพบว่า type ที่มีมาให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเราได้ เราสามารถนิยาม type ขึ้นเองได้ เรียกว่า user defined data type (ต่อไปจะเรียกย่อว่า UDT) โดยใช้ structure
ยกตัวอย่างการสร้าง structure ชื่อ record เพื่อเก็บข้อมูลนักเรียนเป็นดังนี้
public struct record
{
public char cname;
public char sname;
public char exam;
public char grade;
}

จะเห็นว่าการสร้าง UDT ด้วย structure คือการนำ type ที่มีอยู่มาผสมกันเพื่อให้ได้เป็น type ใหม่
คลาสก็เหมือน structure เรานิยามคลาสเพราะเราต้องการสร้าง UDT ขอใช้อุปมาขนมครกสิงค์โปรอีกครั้ง ขนมครกสิงค์โปรหนึ่งเตาจะมีหลายหลุม แต่ละหลุมมีลวดลายต่างกัน เช่นหลุมหนึ่งมีลายเป็นปลา อีกหลุมหนึ่งมีลายเป็นหอย ขนมครกที่ได้จากหลุมแต่ละหลุมจึงมีรูปร่างต่างกัน หรือมี type ต่างกัน สิ่งที่ทำให้ type ของขนมครกแตกต่างกันคือตัวหลุม
หลุมแต่ละหลุมบนขนมครกสิงค์โปรเทียบได้กับคลาสหนึ่งคลาส จุดมุ่งหมายในการนิยามคลาสก็เหมือน structure คือเราต้องการสร้าง type ใหม่ object ที่ถูกสร้างจากคลาสจะมี type ตามที่คลาสนั้นได้นิยามไว้


การนิยามคลาสใหม่ทำให้เราได้ type ใหม่ object ที่ถูกสร้างจากคลาสต่างกันจะมี type แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น object ที่สร้างจากคลาส Star จะมี type เป็น Star ขณะที่ object ที่ถูกสร้างจากคลาส Hexagon จะมี type เป็น Hexagon

ภาษา C# สนับสนุนการสร้าง type ใหม่อย่างพิสดาร เมื่อนิยามแล้ว UDT กับ build-in type จะมีศักดิ์ศรีเสมอกัน (คือ compiler จะปฏิบัติต่อ type ที่เราสร้างในลักษณะ first class เช่นเดียวกับ build-in type).NET Framework library เองก็เป็นแหล่งรวม type หลายพัน type ที่เราสามารถนำมาประกอบเป็น type ใหม่ที่มีการทำงานซับซ้อนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
การเขียนโปรแกรมแบบ OOP เราจะใช้เวลาส่วนมากไปกับการออกแบบและนิยาม type ขึ้นใหม่เพื่อนำไปใช้สร้าง object ต่างๆ เมื่อนำ object ทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทำงานร่วมกัน จะทำให้โปรแกรมของเราสร้างผลลัพธ์ได้ตามความประสงค์

การใช้งาน object
การใช้งาน object ต้องทำได้ง่าย เราอาจมองว่า object เป็น “กล่องดำ” ในทางวิทยาศาสตร์เราจะเรียกอุปกรณ์ที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดการทำงานภายในของมันว่า กล่องดำ ยกตัวอย่างเช่นโทรศัพท์ เรานำมันมาใช้ประโยชน์เพื่อการสื่อสารได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันทำงานได้อย่างไร เช่นเดียวกัน ในภาษา C# เราสามารถนำ object มาใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันมี source code ภายในเป็นอย่างไร
เมื่อเราต้องกาเรียกให้ object ทำงานบางอย่างเราจะเรียก method ของมัน ยกตัวอย่างเช่นโทรศัพท์มี method คือการโทรฯ ออก การวางสาย การพักสาย การบันทึกเลขหมายฯ ในภาษา C# เราจะนิยาม method เหล่านี้โดยการเขียนโค้ดหนึ่งชุด คล้ายการนิยามฟังก์ชันในภาษา C
object จะผนวกกระบวนการ (method) และข้อมูล (information) ไว้ภายในตัวของมันเอง จากตัวอย่างโทรศัพท์เก็บเลขหมายที่เราบันทึกไว้ โดยเราไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันเก็บไว้ที่ไหนอย่างไร เรารู้เพียงวิธีดึงเลขหมายที่บันทึกไว้ออกมาใช้งานก็พอ ในภาษา C# object จะเก็บข้อมูลภายในไว้ใน field (คือตัวแปรท้องถิ่นของคลาส) โปรแกรมที่เรียกใช้ object ไม่จำเป็น (และไม่สามารถ) เข้าถึงหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน field ได้โดยตรง แต่สามารถเข้าถึงทางอ้อมได้ผ่านส่วนเชื่อมต่อที่เรียกว่า property
ภาษา C# สนับสนุนหลักการทุกรูปแบบในลัทธิ OOP โดยหลักการนี้ มีเรื่องหลัก 3 หัวข้อที่ท่านจำเป็นต้องเข้าใจ คือ• Encapsulation: การห่อหุ้มวิธีการและข้อมูลไว้ภายในหน่วยหนึ่งๆ• Inheritance: การสืบทอดคุณสมบัติ• Polymorphic: การแปรคุณสมบัติ
ผู้เขียนจะอธิบายหลักการแต่ละหัวข้อต่อไปในบทนี้

ความเป็นมาของ OOP
แนวคิด OOP ไม่ใช่ของใหม่ แต่มีมาพร้อมๆ กับการเริ่มต้นของวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในปี ค.ศ. 1960 นักเขียนโปรแกรม คิดค้นภาษา Simula (อ่านว่าซิมูลา) สำหรับเครื่อง UNIVAC ซึ่งเป็นภาษาแรกที่มีคุณสมบัติในการทำ OOP และอีกสามปีต่อมา นักศึกษาที่สถาบัน MIT อีวาน ซัทเธอร์แลนด์ (Ivan Sutherland) สร้างซอฟท์แวร์ชื่อ Sketcpad เป็นโปรแกรมประยุกต์ทำหน้าที่ช่วยการออกแบบ (CAD) มันเป็นโปรแกรมแรกที่นำ “การปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ด้วยภาพ” (Graphic User Interface หรือ GUI) มาใช้อย่างสมบูรณ์ และการออกแบบสร้างก็ทำโดยใช้หลักการ OOP อย่างเต็มรูปแบบ

การพัฒนาภาษา Simula สำหรับเครื่อง UNIVAC ในปี ค.ศ. 1960
ดูเหมือนว่าวิวัฒน์ของ OOP และ GUI จะเกี่ยวพันกันอยู่เสมอเพราะต่อมาในปี ค.ศ. 1970 เมื่อศูนย์วิจัยของซีร็อกซ์ ที่ พาโล-อัลโต ต้องการสร้างระบบปฏิบัติการแบบ GUI (ที่ต่อไปจะเป็นบรรพบุรุษของ Mac OS และ Microsoft Windows) ทีมนักวิจัยได้สร้างภาษาใหม่ชื่อ Smalltalk (สมอลทอล์ค) เพื่อให้เหมาะกับการเขียนโปรแกรมแบบ GUI ภาษานี้ได้รับอิทธิพลจากภาษา Simula อย่างมาก

ภาษา Smalltalk บนเครื่อง Alto ในปี ค.ศ. 1970
แนวคิด OOP เริ่มเบ่งบานเต็มที่ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เมื่อบริษัทแอปเปิลและบริษัทไมโครซอฟท์ต่างผลิตระบบปฏิบัติการที่เป็น GUI ออกสู่ท้องตลาด และมีภาษาแบบ OOP เกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก เช่น ภาษา Objective C, Modula-2 และ Eiffel แนวคิด OOP ขึ้นถึงจุดสุดยอดใน ค.ศ. 1983 เมื่อ Bjarne Stroustrup นักวิทยาศาสตร์แห่งห้องทดลอง เบลล์ ได้สร้างภาษา C++ ซึ่ง Bjarne ให้นิยามว่าเป็น “ภาษาซีที่มีคลาส”

6/04/2552

BODYSLAM บอดี้สแลม

  • บอดี้สแลม (Bodyslam) เป็นวงดนตรีแนวร็อก(Rock)หลากหลายรูปแบบ ผสมผสานกัน ในแนวที่ไม่ซ้ำใครและมีความเป็นตัวของตัวเอง เนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่มักจะสอดแทรกแง่คิดที่เป็นประโยชน์

สมาชิก

อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) - ร้องนำ
ธนดล ช้างเสวก (ปิ๊ด) - เบส
สุชัฒติ จั่นอี๊ด (ชัช) - กลอง
ธนชัย ตันตระกูล (ยอด) - กีตาร์


อดีตสมาชิก
รัฐพล พรรณเชษฐ์ (เภา) - กีตาร์
ปัจจุบันออกอัลบั้มเดี่ยว ในอัลบั้มชื่อ PRESENT PERFECT สังกัดค่ายสนามหลวง ในเครือแกรมมี่ มีเพลงฮิต เช่น คนไม่มีปีก ซ้ำไปซ้ำมา และกำลังจะมีผลงานอัลบั้มชุดใหม่เร็ว ๆ นี้


ประวัติ

วงละอ่อน เกิดจากการรวมตัวของเด็กนักเรียน 6 คน จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (ละอ่อน เป็นภาษาถิ่นของภาคเหนือ แปลว่าเด็กๆ, คนที่อายุน้อยกว่า และเป็นชื่อประเพณีวันรับน้องของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งเป็นประเพณีรับน้องระดับชั้นม.1 ที่จัดโดยรุ่นพี่ปี1และม.6 ในปีนั้นๆ)
พ.ศ. 2539 รายการวิทยุ Hot Wave ได้จัดงานประกวดวงดนตรีระดับมัธยมศึกษาชื่อ Hot Wave Music Awards ขึ้นเป็นครั้งแรก วงละอ่อนจึงได้เข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลชนะเลิศ จากจำนวนวงดนตรีจำนวนมากที่เข้าร่วมแข่งขัน ทำให้วงละอ่อนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด มิวสิกบั๊กส์ และออกอัลบั้มแรกในชื่อ ละอ่อน โดยมีเพลงดังคือเพลง ได้หรือเปล่า และ นิดนึงพอ (นิดนึงพอ บรรเลงและขับร้องโดย วงละอ่อน แต่เป็นรุ่นที่สอง นักร้องนำคือ ปั้น เจษฎา ที่เข้ามาแทนตำแหน่งของ ตูน อาทิวรา เพื่อประกอบเรื่อง เทพนิยายนายเสนาะ ปัจจุบัน ปั้น เจษฎา เป็นสมาชิกวง Basher นอกจากนี้เพลง นิดนึงพอ ยังมี version ที่บรรเลงและขับร้องโดยวง Friday (Friday I'm in love) อีกด้วย) เป็นการรวมตัวกันของนักดนตรี (ส่วนหนึ่ง) ของวงละอ่อน ซึ่งเคยชนะเลิศการประกวด Hot Wave Music Award ครั้งที่ 1 และมีผลงานมาแล้วถึง 2 อัลบั้ม หลังจากนั้นสมาชิกในวงก็ได้แยกย้ายกันไปเรียนต่อ ตามความถนัดของแต่ละคน ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตแตกต่าง และห่างกันไปโดยไม่ตั้งใจจนกระทั่ง"ตูน" นักร้องนำของวง ได้หวนกลับมาสนใจเล่นดนตรีอีกครั้ง และเริ่มแต่งเพลงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานก็ได้ "เภา" มาช่วยงานเพลง และ"ปิ๊ด" ก็กลับมาช่วยทำงานเพลงในรูปแบบใหม่ และเปลี่ยนชื่อวงเป็น Bodyslam ซึ่งแนวดนตรีได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ที่มาของชื่อบอดี้สแลม
จากคำอธิบายของพวกเขาเอง ที่มาของชื่อนี้มาจากท่าๆ หนึ่งของมวยปล้ำ แต่ถ้าแปลความหมายตรงตัว BODY แปลว่าร่างกาย SLAM คือการทุ่ม เมื่อพอมารวมกันเป็น BODYSLAM ก็หมายถึง การทุ่มสุดตัว คือการทำงานเพลงกันเต็มที่แบบทุ่มสุดตัว


ผลงานอัลบั้มเต็ม

อัลบั้ม Bodyslam (พ.ศ. 2545)
วางแผง 9 กรกฎาคม 2545
ทางของฉัน ฝันของเธอ
อากาศ
เผื่อไว้
ยกโทษ
ย้ำ
นาทีสุดท้าย
ผมไม่สู้
งมงาย
สักวันฉันจะดีพอ
มือใหม่
Away
ป่านนี้
พวกเขาส่วนหนึ่งได้กลับมารวมตัวกันในชื่อ Bodyslam ภายใต้การดูแลของทีมนักทำเพลงที่ชื่อว่า Mango Team ซึ่งเป็นทีมเดียวกันกับที่ดูแลผลงานเพลงของวง
บิ๊กแอส โดยมาเป็นดนตรีร็อกหนักแน่น โดยเหลือสมาชิกเพียง 3 คนจาก 6 คนเท่านั้น ผลงานเพลงชุดแรกชื่อ Bodyslam ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากที่เพลง "งมงาย" "อากาศ" "สักวันฉันจะดีพอ" และ "ย้ำ" ที่ได้รับความสำเร็จอย่างดี

อัลบั้ม Drive (พ.ศ. 2546)
วางแผง 9 กันยายน 2546
ให้รักคุ้มครอง
ความซื่อสัตย์
ชึวิตที่ฉันเหลืออยู่
หวั่นไหว
Bodyslam
ปลายทาง
หลังฝน
มีแค่เธอก็เกินพอ
จันทร์ยังเต็มดวง
ภาพลวงตา
ภายในระยะเวลา 1 ปีให้หลังบอดี้สแลม ได้ออกอัลบั้มแรก ( ตูน ปิ๊ด เภา ) ก็ได้ออกอัลบั้ม Drive (ไดร์ฟ) กับเพลง "ความซื่อสัตย์" เพลงโปรโมทแรกจากอัลบั้ม "Drive" และมีเพลงอื่น ๆที่ได้รับความนิยมอย่างเช่น "ปลายทาง" ,"หวั่นไหว" ซึ่งเป็นเพลงมีการใช้คำเปรียบเปรย "อยากเห็นคนไทยบินได้" และเพลงอื่น ๆในอัลบั้มอย่างเช่น "ชีวิตที่ฉันเหลืออยู่" "Bodyslam" "จันทร์ยังเต็มดวง" และ "หลังฝน"

อัลบั้ม Believe (พ.ศ. 2548)
วางแผง 22 เมษายน 2548
ชีวิตเป็นของเรา
ขอบฟ้า
คนที่ถูกรัก
ความรักทำให้คนตาบอด
ความเชื่อ Feat.แอ๊ด คาราบาว
พูดในใจ
รักก็เป็นอย่างนี้
ห้ามใจ
ไม่รู้เมื่อไหร่
เจ็บจนวันนี้
หลังจากออกอัลบั้ม Drive พวกเขาก็ออกจากค่าย
มิวสิกบั๊กส์และเซ็นต์สัญญากับ จีนีส์ เรคอร์ด ซึ่งอยู่ในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่สังกัดเดียวกับศิลปินรุ่นพี่วงบิ๊กแอส (BIG ASS) มีการเปลี่ยนแปลงภายในวงเกิดขึ้นเมื่อ เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ์ มือกีตาร์ของวงก็ได้ขอแยกตัวออกไปทำอัลบั้มเดี่ยว (ในชื่อ Present Perfect) สังกัด ค่ายสนามหลวง โดยมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาคือ ยอด-ธนชัย ตันตระกูล มือกีตาร์ที่เคยเป็นนักดนตรีแบ็คอัพให้กับหลายศิลปิน อาทิ ปาล์มมี่ ฯลฯ ในตำแหน่งมือกีตาร์ กับ ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองที่เคยแบ็คอัพ ให้กับ BODYSLAM มาตั้งแต่อัลบั้มแรก และหลายศิลปิน อาทิ ปาล์มมี่ ฯลฯ เป็นต้น พวกเขาก็ออกอัลบั้ม Believe กับค่ายเพลงแห่งใหม่ โดยเปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกกับเพลง "ขอบฟ้า" ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีอีกหลายเพลงที่ได้รับความนิยม เช่น "ความรักทำให้คนตาบอด" "พูดในใจ" "คนที่ถูกรัก" และเพลงได้มีแขกรับเชิญพิเศษ "แอ๊ด คาราบาว" ในเพลง "ความเชื่อ" ยังมีเพลงอืนๆ อาทิ "ห้ามใจ" "รักก็เป็นอย่างนี้"


Special (พ.ศ. 2548)
ให้รักพาสองเราไปด้วยกัน (เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณามอเตอร์ไซค์ Yamaha Spark 135)
เรา (เพลงพิเศษที่ใช้ร้องร่วมกับวง บิ๊กแอส ในงานคอนเสิร์ต BigBody Concert ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี)
พลังดนตรี (เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณา เครื่องดื่ม M-150) เฉพาะ ตูน โฆษณานี้ ตูน ถ่ายร่วมกับ เอกรัตน์ วงษ์ฉลาด (แด๊กซ์ BIG ASS),
เสกสรรค์ สุขพิมาย (เสก LOSO),ลานนา คัมมินส์,อ.ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า (ขุนอินทร์)


Special (พ.ศ. 2550)
ชนะใจตัวเอง (เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาเครื่องดื่ม M-150 มีนาคม 2550)
สัญญาณในใจ (เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณารถจักรยานยนต์ Yamaha Spark 135 X Series) ร้องร่วม กับ ณัฐพล พุทธภาวนา (โต HANGMAN)


อัลบั้ม Save My Life (พ.ศ. 2550)
อัลบั้ม Save My Life
วางแผง 18 กันยายน 2550
ยาพิษ
อกหัก
ท่านผู้ชม
ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ
แค่หลับตา Feat. ปนัดดา เรืองวุฒิ
เสี้ยววินาที
คนมีตังค์
แสงแรก
นาฬิกาตาย Feat. โก้ Mr.Saxman
ขอบคุณน้ำตา
เพลงเปิดตัวเพลงแรก "ยาพิษ" ได้ออกสู่ผู้ฟัง ได้รับการตอบรับไม่น้อย เนื่องจากเนื้อหาและความหนักหน่วงทางดนตรีที่เพิ่มขึ้นมาก (มีดนตรีแนว Alternative ให้เห็นอย่างเด่นชัด) เมื่อได้ฟังเพลงทั้งหมดของอัลบัมนี้แล้ว อาจจะรู้สึกได้ว่า ดนตรีได้มีการเปลี่ยนแนวไป ในการฟังครั้งแรก ก็จะพบว่าเพลงดีมีอยู่ อย่างเช่น ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ อกหัก นาฬิกาตาย นี่เป็นการเปลี่ยนแนวครั้งยิ่งใหญ่ ของ BODYSLAM อัลบั้มนี้ ตูนได้แต่งเพลงเองสองเพลงคือเพลง แค่หลับตา ซึ่งเพลงนี้ตูนได้ร้องคู่กับปนัดดา เรืองวุฒิ และเพลงขอบคุณน้ำตา และอีกเพลงที่ตูนแต่งเพลงร่วมกับขจรเดช พรมรักษาหรือ กบ Big Ass โปรดิวเซอร์ก็คือเพลง ยาพิษ และเป็นที่น่ายินดี สำหรับเพลง เสี้ยววินาที ที่เป็นเพลงประกอบโฆษณา 24thSea Games 2007 Information Center Nakhon Ratchasima THAILAND


อัลบั้ม Project "PLAY" (พ.ศ. 2552)
เสียดาย
เป็นอัลบั้มพิเศษของทาง Gmm Grammy ที่จัดขึ้นมาเพื่อฉลอง 25 Gmm Grammy โดยอัลบั้มนี้จะอยู่ในหมวดของ Rock โดยให้แต่ละศิลปินได้เลือกเพลงเก่ามนตำนานของ Gmm Grammy มา cover ใหม่ ให้เป็นแนวของศิลปินเอง
ล่าสุดทางวงได้มีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองต่างในสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นการปิดท้ายอัลบั้มก่อนไปเล่นคอนเสิร์ตต่างประเทศ พวกเขาได้จัดปาร์ตี้ขึ้น ในวันที่ 26 เมษายน 2552 โดยใช่ชื่อว่า "BODYSLAM THANK YOU PARTY" ซึ่งเป็นปิดท้ายอัลบั้มในไทย และหลังจากจบคอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกา ตูนนักร้องนำของวงได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดเกาะทอง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2552 และมีกำหนดลาสิกขาบทในวันที่ 8 มิถุนายน 2552 และจากนั้นพวกเขาก็ได้เริ่มทำอัลบั้มใหม่ต่อไป...


อัลบั้มพิเศษ
เป็นอัลบั้มพิเศษที่ค่ายมิวสิค บักส์รวมเพลงของ Bodyslam มาทำทำนองใหม่ ดนตรีใหม่ โดย เพลงในอัลบั้มพิเศษนั้นเป็นการรวมเพลงตั้งแต่อัลบั้ม Bodyslam ถึง Drive และยังรวมถึงอัลบั้มของวงละอ่อนอีกด้วย

อัลบั้ม In Love
อากาศ
งมงาย
ย้ำ
ทางของฉัน ฝันของเธอ
จันทร์ยังเต็มดวง
ปลายทาง
หวั่นไหว
ชีวิตที่เหลืออยู่
หลังฝน
ป่านนี้

อัลบั้ม In Love 2
ความซื่อสัตย์
สักวันฉันจะดีพอ
ได้หรือเปล่า
เผื่อไว้
ยกโทษ
มือใหม่
Bodyslam
นาทีสุดท้าย
ให้รักคุ้มครอง
ภาพลวงตา

อัลบั้ม Remix
ปลายทาง
อากาศ
ได้หรือเปล่า
ทางของฉัน ฝันของเธอ
นาทีสุดท้าย
มือใหม่
ย้ำ
งมงาย
ยกโทษ
หวั่นไหว

อัลบั้ม The Birth of Bodyslam : La-On
สมควร
ได้หรือเปล่า
เฮ้อ...คืนนี้
Nana น้องๆ
ให้เธอรู้
ปิดตา...ให้ทาย
Hey You!
เพื่อนที่เข้าใจ
Nothing
ได้หรือเปล่า (เวอร์ชัน...ถามอีกที)

คอนเสิร์ต
บอดี้สแลมมีคิวการแสดงคอนเสิร์ตตามงานต่างจังหวัดมากมาย และมีคอนเสิร์ตใหญ่ อยู่ 5 ครั้ง คือ
วันเที่ 17 เมษายน 2547 คอนเสิร์ต HOTWAVE LIVE : BODYSLAM MAXIMUM LIVE จัด ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์( ท่าพระจันทร์ ) ที่ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ทางคลื่นร้อน 91.5 Hot Wave จัดให้ตามคำขอของเหล่าสาวกแฟนคลับของทั้ง 3 หนุ่ม ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย, ปิ๊ด-ธนดล ช้างเสวก, เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ โดยมีศิลปินรับเชิญคือ ปู แบล็คเฮด อ๊อฟ บิ๊กแอสส์ ป๊อด
โมเดิร์นด็อก
14 พฤษภาคม 2548 คอนเสิร์ตวันคุ้มครองโลก ( Earth day ) ในชื่อ "Bodyslam Believe Concert" ที่
Thunder Domeเมืองทองธานี โดยมีแขกรับเชิญ 2 คน คือ บอย - อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ( บอย PEACEMAKER ) และ เภา - รัฐพล พรรณเชษฐ์ อดีตมือกีตาร์ BODYSLAM ปัจจุบันออกอัลบั้มเดี่ยวชื่อ PAO PRESENT PERFECT
9 ตุลาคม 2548 คอนเสิร์ต BIG BODY ที่
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานีจัดร่วมกับวงร็อกรุ่นพี่ บิ๊กแอส
22 เมษายน 2549 คอนเสิร์ต M-150 สุดชีวิตคนไทย ที่
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ร่วมกับ บิ๊กแอส โปเตโต้ เสก โลโซ ลานนา คัมมินส์ ทาทายัง
20-21 ตุลาคม 2550 BODYSLAM มีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า BODYSLAM SAVE MY LIFE CONCERTที่
อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก โดยวันที่ 20 ต.ค. มีแขกรับเชิญ 3 คน คือ โก้ Mr.Saxman , ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และ ปนัดดา เรืองวุฒิ ส่วนวันที่ 21 ต.ค. ก็มี 3 คนเช่นกัน คือ โก้ Mr.Saxman , แอ๊ด คาราบาว และ ปนัดดา เรืองวุฒิ
5 กรกฎาคม 2551 BODYSLAM คอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า EVERY BODYSLAM CONCERTที่
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี

รางวัล

ในปี พ.ศ. 2549 บอดี้สแลมได้เข้าชิงหนึ่งใน 5 งานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดสสาขาศิลปินยอดนิยมประเทศไทย ในปีเดียวกันนี้ ตูน บอดี้สแลม ก็ได้เข้ารับรางวัล ลูกกตัญญูดีเด่นเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 2549 ร่วมกับศิลปินอื่นวงอื่น ๆ เช่น แบงค์ CLASH
ปีพ.ศ. 2551
สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 20: ศิลปินกลุ่มร็อคยอดเยี่ยม, อัลบั้มร็อคยอดเยี่ยม(Save my live) และเพลงร็อคยอดเยี่ยม(ยาพิษ)
FAT AWARDS ครั้งที่ 6: Record of The Year(ยาพิษ)
Music Express Awards 2007: วงดนตรียอดนิยม, มิวสิควีดีโอยอดนิยม(ยาพิษ)
และรางวัลจากเวทีอื่นๆ

แหล่งข้อมูล

www.mangoteamclubs.com, www.wikipedia.org